5 เคล็ดลับการใช้ In-Ear Monitor สำหรับนักดนตรี

In-Ear Monitor เริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่นักดนตรีอาชีพตั้งแต่ปี 1990 และได้รับความนิยมในหมู่นักดนตรีมือสมัครเล่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน เพราะนอกจากช่วยให้ฟังเสียงได้ชัดเจน ลดเสียงรบกวน และยังช่วยปกป้องการได้ยินของผู้ใช้งานอีกด้วย

วันนี้เรามี 5 เคล็ดลับที่ช่วยให้ใช้ In-Ear Monitor ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากมาฝากกัน

1. เลือก In-Ear ที่เหมาะกับตัวเอง
In-Ear Monitor แต่ละรุ่นมีลักษณะเสียงที่แตกต่างกัน นักร้องและมือกีตาร์อาจต้องการเสียงที่เน้นย่านเสียงกลางถึงสูง ในขณะที่มือเบสและมือกลองจะเน้นย่านต่ำ ดังนั้น การเลือกที่เหมาะกับแนวเสียงที่ต้องการจึงเป็นสิ่งสำคัญ

2. การปรับระดับเสียง
เช่นเดียวกับการมิกซ์เสียง การปรับระดับเสียงที่เหมาะสมจะช่วยให้ฟังเสียงได้อย่างชัดเจนและป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย ตัวอย่างเช่น นักร้องนำสามารถปรับบาลานซ์ของคิก หรือ สแนร์ เพื่อช่วยในการจับจังหวะ รวมทั้ง ปรับบาลานซ์ของเครื่องดนตรี ไม่ว่าจะเป็นกีต้าร์ หรือ เปียโน เพื่อแยกแยะระดับเสียงได้อีกด้วย

3. Panning 
ในการใช้ In-Ear Monitor สามารถ Panning เสียงเครื่องดนตรีให้ใกล้เคียงกับการวางเครื่องดนตรีบนเวทีจริง เช่น ปรับกลองและเบสไว้ตรงกลาง แล้วแยกกีตาร์ออกไปทางซ้ายขวา จะช่วยเพิ่มความชัดเจนให้มากยิ่งขึ้น

4. การใช้ EQ 
การปรับ EQ ช่วยให้คุณตัดเสียงที่ไม่จำเป็นออกและเพิ่มเสียงที่ต้องการให้ชัดเจนขึ้น เช่น เพิ่มย่านกลางต่ำเพื่อให้เสียงสแนร์ เสียงร้อง และ เสียงกีต้าร์ โดดเด่นขึ้น

5. เทคนิคการใช้ In-Ear Monitor
In-Ear Monitor ไม่ได้ใช้แค่ฟังเสียงเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มฟังก์ชันอื่นๆ เช่น คลิกแทร็กสำหรับการเล่นสด หรือใช้แทน Set List เพื่อบอกลำดับเพลง รวมทั้ง คิวต่าง ๆ ระหว่างโชว์ได้อีกด้วย

การใช้ In-Ear Monitor มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะสำหรับนักร้องและมือกลองที่ต้องการเสียงที่ชัดเจนและการควบคุมที่ดี การลงทุนในอุปกรณ์คุณภาพดีและเรียนรู้วิธีการใช้ที่เหมาะสม จะช่วยยกระดับคุณภาพในการแสดงของคุณอย่างแน่นอน

 

Credit: TRIVISION

Visitors: 140,149